ประกาศเทศบาลเมืองสระแก้ว
เรื่อง ขอความร่วมมืองดเผา ไร่นา ขยะ และสร้างฝุ่นละอองขนาดเล็ก
...........................................................
ตามประกาศ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ลงวันที่ 30 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2563 เรื่อง ห้ามเผา ไร่นา ขยะ และสร้างฝุ่นละอองขนาดเล็ก ข้อ 7 ให้ความว่า “ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้ฝ่าฝืนเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองบริเวณพื้นที่ต่างๆ” ประกอบกับหนังสือจังหวัดสระแก้ว ด่วนที่สุด ที่ สก 0023.6/ว4343 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เรื่อง รณรงค์งดการเผาซังข้าวและฟางข้าวหลังฤดูเก็บเกี่ยว โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชี้แจงแนะนำ ทำความเข้าใจ กรณีที่มีการเผาตอซังข้าว และฟางข้าวในพื้นที่จนก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของสาธารณชน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกาศให้พื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญตามแนวทาง และให้รายงานจังหวัดสระแก้วทราบ นั้น ให้เป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนให้อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เป็น
อันตรายต่อสุขภาพ เทศบาลเมืองสระแก้วจึงขอความร่วมมือจากหน่วยงานและประชาชน ดังนี้
1. ขอให้ประชาชนงดการกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่นแสงรังสีความร้อน ฝุ่นละออง เขม่า เถ้า หากมีการฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 25,26,28 และมาตรา 74 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
2. งดเผา เศษวัสดุในครัวเรือน เศษวัชพืชในที่รกร้าง เศษหญ้าในเขตไหล่ทางพื้นที่เขตเมือง
3. งดเผา ในพื้นที่การเกษตรเด็ดขาด ให้เปลี่ยนวิธีการกำจัดวัชพืชและผลผลิตทางการเกษตรเป็นการทำปุ๋ยหมัก หรือใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการเร่งการย่อยสลาย
4. ลดปัญหาฝุ่นละอองบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เขตถนนและพื้นที่ใกล้เคียง โดยการขอความร่วมมือผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องฉีดล้างทำความสะอาด ฉีดพ่นละอองน้ำในช่วงที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนนและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ โดยการฉีดพ่นละอองน้ำทำความสะอาดฉีดล้างถนน การทำละอองน้ำสร้างความชุ่มชื้น ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองสูง โดยบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนและจิตอาสาในพื้นที่
5. กรณีพบเห็นการเผาในที่โล่งขอความร่วมมือ แจ้ง งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองสระแก้ว ได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 037-242333 หรือ 199
6. การเผาทุกกรณีถ้าเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ป่า ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้จะมีการสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาโดยเด็ดขาดซึ่งมีโทษปรับสูงสุด 150,000 บาท จำคุกสูงสุด 15 ปี และการกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆแม้จะเป็นของตนเองจนน่าจะเป็นอันตราย แก่บุคคลอื่นๆหรือทรัพย์สินผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุก 7 ปีและปรับไม่เกิน140,000บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 220
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 29 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
|